วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์นี้
อยู่เหนือปากคลองลำน้ำลพบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 17 ไร่เศษ โดยทิศเหนือจรดบ้านและถนน
ทิศใต้จรดบ้านไม่มีถนน ทิศตะวันตกจรดแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดมีถนนลาดยาง ทิศตะวันออกจรดถนน
และที่นาชาวบ้านละแวกนั้น
ถนนด้านทิศตะวันออกเรียกว่า ถนนธรรมเสฐียร ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาแต่เมื่อใด แต่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อ พ.ศ. 2481 ก่อนหน้านั้นคงมีเพียงวิหารการ ทำสังฆกรรมใด
ๆ คงใช้วัดอื่น ปัจจุบันวัดนี้เป็นวัดมหานิกาย บรรดาโบสถ์ วิหารเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่าง
ๆ ของวัดเป็นของที่สร้างขึ้นใหม่ สมัยหลวงพ่ออ่อน และพระครูวิจิตรสังวรคุณ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันทั้งสิ้น เพราะของเดิมได้หักพังสิ้นสภาพไปตามกาลเวลาการปกครองดูแลพระลูกวัด
ท่านมุ่งให้พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้ได้รับการศึกษา และมุ่งการศึกษาให้มีแก่พระภิกษุ
สามเณร โดยมิได้ย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก
ท่านมองเห็นการณ์ไกลเพื่อประโยชน์ของสังคม ทั้งทางพุทธจักร และอาณาจักร
มิได้ประสงค์เพียงเพื่อจะเอาตัวรอดอย่างเดียว นี่คือตะเกียงดวงแรกของวัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์
ที่หลวงพ่อเชยได้จุดไว้ยังวัดแห่งนี้ และขอฝากไว้กับพระภิกษุ สามเณร
และพุทธบริษัททั้งหลาย ช่วยกันหาน้ำมันมาเติมใส่เข้าไว้เพื่อให้ตะเกียงดวงนี้มีแสงสว่าง และลุกโชติช่วงอยู่ตลอดไปคู่กับพระพุทธศาสนาหลวงพ่อเชยเคยอบรมสืบสวนพระภิกษุ
สามเณร ในปกครองของท่านตลอดเวลาว่า
เป็นพระเป็นเณรต้องหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ เจริญเมตตาภาวนาศึกษาเล่าเรียน พระธรรมวินัยบาลี
จะได้มากน้อยอย่างไร ก็ให้พยายามไปช่วยกันทำกิจของสงฆ์ภายในวัด ให้มีความสามัคคี
แบ่งปันส่วนเฉลี่ยเจือจุนกันถ้าองค์ไหนขี้เกียจขี้คร้าน ก็หอบเสื่อหอบหมอนไปนอนที่อื่น
อย่ามาอยู่ให้หนักวัดเขาหลวงพ่อเชยได้อบรมพระภิกษุสามเณรในปกครองของท่านอยู่ตลอดเวลา
ก่อนทำวัตร สวดมนต์ เช้า - เย็น ท่านมีความเป็นห่วงภิกษุ สามเณร
ในปกครองของท่านมากทีเดียว
นี่เป็นความประสงค์อันแม้จริงของท่าน ที่อยากจะเห็นภิกษุ สามเณร ภายในวัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์แห่งนี้ได้รับการศึกษาปรากฏเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งว่า หลวงพ่อเชยท่านมีความสามารถทางฝีมือช่างเป็นพิเศษ
การก่อสร้างถาวรวัตถุหลายอย่าง
หลวงพ่อเป็นผู้ออกแบบแกะสลักลวดลาย และทำงานก่อสร้างเองทั้งสิ้น แม้แต่การสร้างแม่พิมพ์พระ
การแกะสลัก การปั้นรูปภาษี หลวงพ่อก็ออกแบบและทำเองด้วย ในโอกาสที่หลวงพ่อเชยได้พบปะแลกเปลี่ยนวิทยาคมกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้น
เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เสด็จมานมัสการหลวงปู่ศุขหลายครั้ง ทรงพบเห็นพระของหลวงพ่อเชยแล้ว ก็ทรงพระดำริว่าจะให้ช่างทางกรุงเทพฯ
แกะแม่พิมพ์ถวาย ซึ่งเป็นแม่พิมพ์พระโคนสมอ กับแม่พิมพ์พระภควัมบดี บางพิมพ์ให้กับหลวงพ่อเชยหลวงพ่อเชยได้สร้างวัตถุมงคลประเภทพระเนื้อผงผสมว่าน
เนื้อผงใบลาน และเหรียญเสมาพระภควัมบดี
มีอยู่หลายชนิด หลายพิมพ์ทรง และมีแบบต่าง ๆ กัน ซึ่งหลวงพ่อสร้างไว้แจกแก่บรรดาญาติโยมและศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือในตัวท่านปรากฏว่าพระของหลวงพ่อมีอยู่ประมาณ 75 พิมพ์ทรงในจำนวนนี้มีทั้วแบบพิมพ์ที่เสด็จในกรมถวายกับพิมพ์ที่หลวงพ่อเชยแกะเอง ส่วนการสร้างนั้น
หลวงพ่อสร้างอยู่เรื่อย ๆ ครั้งละไม่มาก เมื่อสร้างเสร็จหลวงพ่อจะปลุกเสกองค์เดียว
และแจกแก่ศิษย์ที่เสื่อมใส
พระบางพิมพ์ของหลวงพ่อไม่สามารถจะรวบรวมมาได้ครบทั้ง 75 พิมพ์ จึงขอนำลงเฉพาะบางพิมพ์เท่าที่จะหาได้
เช่น1. พระพิมพ์กำแพงทุ่งเศรษฐี2.
พระพิมพ์สิวลี3.
พระรอดทรงครุฑ4.
พระโคนสมอ5.
พระนาคปรก6.
พระสามพี่น้อง7.
ตะกรุด8. พระหูยาน เนื้อว่านผสมผงใบสาน9. พระสังกัจจายน์
เนื้อว่าน10.
พระพิมพ์ปิดตา 2 หน้าและหน้าเดียว เนื้อผงใบสาน11.
พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อปูน12.
พระพิมพ์เมืองสวรรค์ ด้านหน้าเป็นพระสมเด็จ ด้านหลังเป็นพระรอด13.
พระปิดตาเนื้อผงใบลาน พิมพ์ใหญ่ - เล็ก หลังยันต์14.
พระปิดตาพิมพ์พิเศษ สร้างด้วยเนื้อตะกั่ว15.
พระพิมพ์ฤาษี สร้างทั้งหมด 3
ครั้ง ครั้งที่ 1
เนื้อดิน ครั้งที่ 2
เนื้อดิน
ครั้งที่ 3 เนื้อผงใบลาน16.
เหรียญรูปเสมารูปพระภควัมบดี หลวงพ่อสร้างเป็นรูปรุ่นสุดท้ายเมื่อปี
พ . ศ . 2468 ก่อนหลวงพ่อมรณภาพ
1 ปี
ด้านหน้าของเหรียญเป็นรูปพระภควัมบดี สวยงามมากทีเดียว คือ
มองดูแล้วสะกิดตาสะดุดหัวใจ
เพราะเอกลักษณ์และรูปทรงมองแล้วซึ้ง เป็นเหรียญหนึ่งที่น่าสะสม เนื้อทองแดงกะไหล่ทองปั๊มห่วงหูในตัว
ตรงกึ่งกลางเหรียญเป็นรูปพระปิดตานั่งสมาธิ ห่มจีวรลดไหล่ พระชงฆ์ทั้งสองข้างไขว้เห็นฝ่าเท้าทั้งสองข้างอย่างชัดเจน นั่งบนอาสนะกลีบบัวหงาย
5 กลีบ
บัวคว่ำ 4 กลีบ ในระหว่างบัวคว่ำบัวหงายจะมีเส้นขีดทุกกลีบ
จากปลายกลีบบัวที่ 1 ถึงกลีบบัวที่
5 และมีลายกนกชิดขอบทั้งสองไปจนถึงแขนทั้งสองข้าง
เรียกว่ากนกเปลว ภายในเส้นนูนเล็กๆ
แบบปลายเส้น ตามขอบเหรียญจะมีเส้นขอบนูนถึง 2 ชั้น คล้ายลำตัวพญานาค ริมสุดของขอบเหรียญจะมีลายกนกน่องสิงห์ตามลำตัวพญานาค
หันเศียรออกทั้งสองข้าง
ล่างสุดจะมีลายประจำยาม หรือดอกจัน 3 กลีบ จะเห็นเพียงครึ่งเดียว ภายในดอกจันจะมีจุดไข่ปลา
7 จุด
ไม่มีหนังสือขอมและหนังสือไทยจารึก ( นอกจากด้านหลัง
) นับเป็นลายหนึ่งที่ช่างได้บรรจงแกะแม่พิมพ์ด้วยความประณีตอ่อนไหวดี
สำหรับด้านหลังของเหรียญ ตรงกึ่งกลางเหรียญจะจารึกด้วยภาษาไทยตัวนูนว่า
" ที่รฤกอาจารย์เชย ที่สร้างศาลาโรงธรรม พ.ศ.
2468 " ไม่มีเส้นขอบเหรียญ
จะมองดูเรียบ ๆ ธรรมดา
เหรียญรุ่นนี้ มี 2
ชนิด คือ เหรียญหล่อ และเหรียญปั๊ม แต่การหล่อนั้นจะไม่สวยงามหรือชัดเจนนัก
สู้เหรียญปั๊มไม่ได้ มีความสวยงามมากกว่ากัน นับว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกที่มีราคาแพงมากเหรียญหนึ่ง และรู้สึกว่าจะยากยิ่งขณะนี้
สำหรับเหรียญรูปเหมือนของหลวงพ่อเป็นรูปไข่ เนื้อทองนั้น คณะกรรมการการวัดได้จัดสร้างขึ้น เพื่อให้เช่าบูชานำรายได้สร้างวิหารสำหรับประดิษฐานรุปหล่อเท่าองค์จริฃของหลวงพ่อ โดยคณะกรรมการได้รวบรวมทุนทรัพย์ส่วนตัวด้วยกันจัดสร้างไว้ เป็นเหรียญปั๊มเนื้อทองแดงขอบเหรียญมีจุดไข่ปลา ตรงกึ่งกลางเหรียญมีรูปหลวงพ่อห่มลดไหล่
ครึ่งองค์หน้าตรง มีจารึกภาษาไทยว่า
ท่านอาจารย์เชย สำหรับด้านหลังนั้นมีทั้งตัวยันต์ที่เป็นภาษาขอม
และภาษาไทย ยันต์เป็นยันต์พระเจ้า
5 องค์
นะ ดม พุท ธา ยะ และมีภาษาไทยจารึกเป็นตัวนูนว่า วัดเสฐียร วัตนดิษฐ์
ด้านบนสุดจะมีลายกนกเป็นลายเส้นเล็กน้อยพระและเหรียญดังได้กล่าวแล้วนับเป้นมรดกที่หลวงพ่อเชยท่านได้สร้างไว้ให้เราชาวสิงห์บุรีควรจะรักษา ถึงแม้ว่าหลวงพ่อจะสร้างพระไว้จำนวนไม่มากนักแต่เนื่องจากมีหลายพิมพ์ทรง เมื่อนำมารวบรวมกันเข้าก็จะเป็นจำนวนมากพอสมควร ปัจจุบันชาวบางพุทธาและนักนิยมสะสมพระเครื่องทั่วประเทศอยากได้เเละเกือบทุกครัวเรือนของชาวพุทธามักจะมีระของหลวงพ่อไว้สักการบูชาทุกคนหวงแหน เพราะถือว่า
เมื่อสิ้นบุญของหลวงพ่อแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือ มรดกชิ้นสุดท้ายคือ พระของหลวงพ่อ
ที่ได้ปรากฏคุณพิเศษในด้านต่างๆ เป็นที่ประจักแก่เขามากมาย เขาเหล่านั้นจึงเลื่อมใสศรัทธานับถือหลวงพ่อสืบมาชั่วลูกชั่วหลาน และใครไปตั้งคำถามชาวบางพุทธาว่าพระอะไรดีที่สุด
เขาจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า " หลวงพ่อเชย
" ดีที่สุด ( ทั้งปฏิปทา - จริยวัตร เคร่งครัดในธรรมวินัย )
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น