พุทธกิจ
๔๕ พรรษา
โพสท์ในกระทู้ลานธรรม
มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ โดย เณรวัส [15 ก.ค. 2546 ]
พรรษาที่ ๑
จำพรรษาที่อิสิปตนมฤคทายวัน
- โปรดปัญจวัคคีย์
สังฆรัตนะ เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก
- โปรดพระยสะ
และสหาย ๔๕ คน
ออกพรรษา
- ให้สาวก ๖๐
รูป มีอำนาจบวชกุลบุตร ได้โดยวิธีให้รับไตรสรณคมน์
- โปรดภัททวัคคีย์
๓๐ รูป
- โปรดชฎิลสามพี่น้อง
บวชเป็นเอหิภิกขุ ๑,๐๐๐ รูป
แสดงอาทิตตปริยายสูตรสำเร็จพระอรหันต์หมด
- ไปราชคฤห์โปรดชาวเมืองและพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบัน
- ถวายวัดเวฬุวันเป็นวัดแรก
- ให้สงฆ์สาวกรับอารามที่มีผู้ถวายได้
- พระอัญญาโกณฑัญญะบวชปุณณมันตานีบุตร
( ลูกน้องสาว ) บรรลุอรหันต์
- ได้ ๒
อัครสาวก อุปติสสะและโกลิตะบวชบรรรลุเป็นพระอรหันต์
- บวชพระมหากัสสปะโดยรับโอวาท
๓ ข้อ
พรรษาที่ ๒
จำพรรษาที่เวฬุวัน
ออกพรรษา
เสด็จเมืองเวสาลี แคว้นวัชชี
- สอนพระอานนท์ให้สาธ
ยายรัตนสูตร บรรเทาภัยของชาวเมือง
- พระอานนท์ฟังกถาวัตถุ
๑๐ ประการ ( ของพระปุณณมันตาณีบุตร) เป็นพระโสดาบัน
พรรษาที่ ๓
จำพรรษาที่เวฬุวัน
- ราชคฤหเศรษฐี
ขอสร้างเสนาสนะถวายสงฆ์ เป็นที่พำนักถาวร
- อนุญาตเภสัช
๕ ชนิด และภัตฯ ประเภทต่างๆ
- อนุญาตการอุปสมบทโดยวิธีญัตติจตุตถกรรม
- พระสารีบุตรบวชให้ราธะพราหมณ์เป็นรูปแรก
- อนุญาตวันประชุมสงฆ์
และแสดงธรรมใน ๑๔ คํ่า ๑๕ คํ่า และ ๘ คํ่า ของข้างขึ้นและข้างแรม
พรรษาที่ ๔
จำพรรษาที่เวฬุวัน
- โปรดหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นพระโสดาบัน
- ถวายชีวกอัมพวันอนุญาตผ้าไตรจีวร
๓ ผืน,ผ้าจีวร ๖ ชนิด
ออกพรรษา
- - เทศน์โปรดพุทธบิดา สำเร็จพระอรหันต์และนิพพาน และจุดเพลิงพระบรมศพ
พรรษาที่ ๕
จำพรรษาที่กูฏาคารศาลา
ป่ามหาวัน นอกเมืองเวสาลี
- พระนางประชาบดี
ยอมรับคุรุธรรม ๘ ประการ บวชเป็นภิกษุณีองค์แรก แล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์
- พระนางยโสธราบวชในสำนักพระนางประชาบดีเถรี
บรรลุเป็นพระอรหันต์
- นางรูปนันทา
บวชตามหมู่ญาติ ทรงแสดงฤทธิ์โปรด สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ออกพรรษา
- เสด็จไปภัททิยนคร
แคว้นอังคะ โปรดเมณฑกะเศรษฐี ธนัญชัยเศรษฐี นางวิสาขาและหมู่ญาติ เป็นพระโสดาบัน
- ทรงอนุญาตโครสทั้ง
๕ ทรงอนุญาตนํ้าผลไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้ากับเมล็ดนํ้าข้าวเปลือก)
นํ้าใบไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้าผักดอง ) นํ้าดอกไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้าดอกมะซาง ) นํ้าอ้อยสด ทรงอนุญาตให้ฉันผักสดทุกชนิด และของขบฉันที่ทำด้วยแป้ง
ให้ฉันผลไม้ได้ทุกชนิด
- แสดงมหาปเทส
๔ สิ่งที่ควรและไม่ควรสำหรับสงฆ์
พรรษาที่ ๖
จำพรรษาที่ มกุลบรรพต แคว้นมคธ
- ห้ามพระภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์
- ปรารภจะแสดงยมกปาฏิหาริย์เอง
ออกพรรษา
- เดียรถีย์สร้างสำนักหลังวัดเชตวัน
พระเจ้าปเสนทิโกศล เปลี่ยนเป็นสร้างอารามสำหรับภิกษุณี เรียกราชการาม
- เพ็ญเดือน ๘
แสดงยมกปาฏิหาริย์ นอกเมืองสาวัตถี
พรรษาที่ ๗
จำพรรษาที่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- แสดงพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดาตลอดไตรมาสจนบรรลุเป็นพระโสดาบัน
- เรื่องอังกุรเทพบุตรและอินทกเทพบุตร
- ลงจากชั้นดาวดึงส์
ที่ประตูเมืองสังกัสสะ หลัง
ออกพรรษา
- เสด็จกรุงสาวัตถี
- ปรารภเรื่องนางปฏิปูชิกา
ภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร
- นางจิญจมาณวิกา
ใส่ความพระพุทธเจ้า ถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก
พรรษาที่ ๘
จำพรรษาที่เภสกฬาวัน
ภัคคชนบท
- บิดาของสิงคาลกมานพบวช
บรรลุพระอรหันต์
ออกพรรษา
- บัญญัติสิกขาบทเรื่องการผิงไฟของภิกษุ
- โปรดมาคันทิยาพราหมณ์และภรรยา
จนขอบวชทั้ง ๒ คนแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
- นางมาคันทิยาผู้เป็นธิดาผูกจิตอาฆาตในพระศาสดา
- เศรษฐีโกสัมพี
๓ คนตามไปฟังธรรมที่วัดเชตวันเมืองสาวัตถีบรรลุเป็นพระโสดาบันและได้สร้าง
โฆสิตาราม ปาวาริการาม และกุกกุฏาราม ถวายที่โกสัมพี
พรรษาที่ ๙
จำพรรษาที่โกสัมพี
- เรื่องนางสามาวดี
ได้เป็นมเหสีพระเจ้าอุเทน ถูกนางมาคันทิยาวางแผนเผาทั้งปราสาทจนตาย
ออกพรรษา
- สงฆ์ที่โฆสิตาราม
โกสัมพี แตกความสามัคคี
พรรษาที่ ๑๐
จำพรรษาที่รักขิตวัน (ป่าปาริเลยยกะ)
อยู่ระหว่างกรุงโกสัมพีกับกรุงสาวัตถี
- ช้างปาริเลยยกะและวานรถวายอุปัฏฐากพระพุมธองค์
ออกพรรษา
- หมู่สงฆ์ชาวโกสัมพีมาขอขมาต่อพระองค์
ทำให้สังฆสามัคคี
พรรษาที่ ๑๑
จำพรรษาที่หมู่บ้านพราหมณ์
เอกนาลา ใต้เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ
ออกพรรษา ไม่ปรากฏหลักฐาน
พรรษาที่ ๑๒
จำพรรษาที่ควงไม้สะเดา
เมืองเวรัญชา
- ทรงไม่อนุญาตให้มีการบัญญัติสิกขาบท
ออกพรรษา
- เรื่องเอรกปัตตนาคราช
- พระนางปชาบดีเถรี
ทูลลานิพพาน ประชุมเพลิง
- การอุปสมบท ๘
วิธี
พรรษาที่ ๑๓
จำพรรษาที่จาลิกบรรพต
เมืองจาลิกา
- เรื่องพระเมฆิยะ
ออกพรรษา
- แสดงมงคลสูตร
๓๘ ประการ
- แสดงกรณีเมตตาสูตร
- เรื่องพระพาหิยะทารุจิริยะ
- พระอัญญาโกณฑัญญะทูลลานิพพาน
พรรษาที่ ๑๔
จำพรรษาที่วัดเชตวัน
สาวัตถี
- สามเณรราหุลอุปสมบท
- ตรัสภัทเทกรัตตคาถา
- แสดงนิธิกัณฑสูตร
ออกพรรษา
- บัญญัติวิธีกรานกฐิน
- อนุญาตสงฆ์
รับการปวารณาปัจจัยเภสัชเป็นนิตย์
พรรษาที่ ๑๕
จำพรรษาที่นิโคธาราม
กรุงกบิลพัสดุ์
- เจ้าศากายะถวายสัณฐาคาร
- แสดงสัปปุริสธรรม
๗ ประการ
- เรื่องพระเจ้าสุปปพุทธะถูกธรณีสูบลงอเวจี
ออกพรรษา
- ไม่ปรากฏหลักฐาน
พรรษาที่ ๑๗
จำพรรษาที่วัดเวฬุวัน
- พระทัพพมัลลบุตรทูลลานิพพาน
ออกพรรษา
- เรื่องพระวักกลิ
พรรษาที่ ๑๘
จำพรรษาที่จาลิกบรรพต
เมืองจาลิกา
ออกพรรษา
- เสด็จเมืองอาฬาวีครั้งที่๒
- โปรดธิดาช่างหูกบรรลุโสดาปัตติผล
- ช่างหูกผู้เป็นบิดาขอบวชสำเร็จอารหัตตผล
- ตรัสอริยทรัพย์
๗ ประการ
พรรษาที่ ๑๙
จำพรรษาที่จาลิกบรรพต
เขตเมืองจาลิกา
ออกพรรษา
- เรื่องโปรดโจรองคุลีมาล
- เรื่องสันตติมหาอำมาตย์บรรลุอรหัตตผลแล้วนิพพาน
พรรษาที่ ๒๐
จำพรรษาที่เวฬุวัน
เมืองราชคฤห์
- พระอานนท์ได้เป็นอุปัฏฐากประจำพระองค์
- พระอานนท์ทูลขอพร
๘ ประการ
พรรษาที่ ๒๑-๔๕
จำพรรษาที่วัดเชตวัน
หรือ วัดบุพพาราม สลับกันไป
ออกพรรษาที่จาริกไปตามตำบลต่างๆ
เพื่อโปรดเวไนยสัตว์
ประมาณพรรษาที่๒๑
จำวัดที่บุพพารามสาวัตถี
- พระองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโทกข์ในที่ประชุมสงฆ์ทุกกึ่งเดือน
ครั้งแรก
ประมาณพรรษาที่๒๖
พระราหุลนิพพาน
พรรษาที่๓๗
เทวทัตคิดปกครองสงฆ์
- วางแผนปลงพระชนม์พระศาสดา
- ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร
- พระเทวทัตถูกธรณีสูบ
พรรษาที่๓๘
แสดงสามัญญผลสูตรแก่อชาตศัตรู
- อชาตศัตรูแสดงตนเป็นพุทธมามกะ
- กรุงสาวัตถี
- อำมาตย์ก่อการขบถ
- พระเจ้าปเสนทิโกศลสิ้นพระชนม์
- พระเจ้าวิฑูฑภะฆ่าล้างวงศ์ศากยะ
- พระเจ้าวิฑูฑภะสิ้นพระชนม์
พรรษาที่๔๓
พระยโสธราเถรีนิพพาน
พรรษาที่๔๔
แสดงธรรมที่วัดเชตวัน
- ตอบปัญหาเทวดา
ออกพรรษา
- พระสารีบุตรทูลลานิพพาน
- พระสารีบุตรโปรดมารดาจนบรรลุโสดาปัตติผลพระสารีบุตรนิพพาน
- พระโมคคัลลานะถูกโจรที่เดียรถีย์จ้างมาทำร้าย
- พระโมคคัลลานะนิพพาน
- นางอัมพปาลีถวายอาราม
นางอัมพปาลีบรรลุธรรม
พรรษาที่๔๕
ภิกษุจำพรรษารอบกรุงเวสาลี
- ตรัสอานุภาพอิทธิบาท
๔
- ทรงปลงอายุสังขาร
ตรัสโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ
- นายจุลทะถวายสุกรมัททวะ
- ตรัสถึงสังเวชนียสถาน
๔แห่ง
- วิธีปฏิบัติกับพุทธสรีระปัจฉิมโอวาทแก่ภิกษุ
- เสด็จปรินิพพาน
ลำดับเหตุการณ์สำคัญโดยย่อในครั้งพุทธกาลเพื่อใช้จดจำลำดับเรื่องตลอดระยะเวลา
๔๕พระพรรษาที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาส้มพุทธเจ้า ทรงมีพระเมตตาต่อปวงเวไนยสัตว์ จึงขอชาวพุทธทั้งหลายรำลึกย้อนรอยอดีตสู่กาลเวลาอันอุดมเลิศในวันเพ็ญอาสาฬหบูชานี้
นอกจากพุทธกิจอันเป็นมหาคุณใหญ่แล้วพระผู้มีพระภาคยังมีกิจ ๕
ประการในแต่ละวันเพื่ออำนวยประโยชน์สูงสุดแก่ชาวโลก เราชาวพุทธนับได้ว่าเป็นผู้มีบุญใหญ่ที่มีโอกาสพบสัจจธรรม
อันเป็นความจริงซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าจะหาใดเปรียบได้เลย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น