วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประวัติ หลวงปู่รอด วัดนายโรง

ประวัติ หลวงปู่รอด วัดนายโรง
         เป็นชาวบางพรม ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดนายโรง จนกระทั้งได้รับแต่งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนายโรง รูปที่ ๒ และเป็นพระอุปัชฌาย์ได้ทำการอุปสมบทกุลบุตรในย่านคลองบางกอกน้อย คลองชักพระ บางละมาด บางพรม ธนบุรี ตลอดจนบางกรวย บางใหญ่ บางคูเวียง นนทบุรี จนมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก
หลวงปู่รอดนอกจากจะเป็นพระเถระที่มีความรู้ความชำนาญด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานแล้ว ยังมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพิเศษในด้านพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมอีกด้วยโดยเฉพาะ เรื่อง เบี้ยแก้ และลูกอมชานหมาก

วัตถุมงคลของหลวงปู่รอด
         เบี้ยแก้ เป็นหอยชนิดหนึ่งในตระกูล Cypraea วงศ์ Cypraeidea จะมีลักษณะหลังนูนท้องแบน เปลือกแข็ง ผิวเป็นมัน ช่องปากยาวแคบเป็นลำราง ไปจนสุดปลายทั้งสองข้างริมปากทั้งสองด้านเป็นหยัก ๆ คล้ายฟัน ไม่มีแผ่นปิด คนทั่วไปจะเรียกว่า หอยเบี้ย ในสมัยโบราณเคยใช้หอยชนิดนี้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย แทนเงิน และเบี้ยชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น เบี้ยจั่น เบี้ยแก้ว เบี้ยนาง อัตราการแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ ๑๐๐ เบี้ย เท่ากับ ๑ อัฐ หรือสตางค์ครึ่ง
ครั้นนำมาประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธาคมและเวทย์วิทยาคม ตามกรรมวิธีหลวงปู่แล้ว เรียกว่า เบี้ยแก้ เชื่อกันว่า เป็นวัตถุมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ผู้ถือครองตั้งอยู่ในความดี และสามารถป้องกันหรือแก้ไขอันตรายต่าง ๆ จากคุณไสย และภูตผีปีศาจได้เป็นอย่างดี ตามความเชื่อของคนในสมัยนั้น
ส่วนประกอบและมวลสารของเบี้ยแก้
เบี้ยแก้ของหลวงปู่จะประกอบด้วยวัตถุ ๔ อย่าง คือ
๑. หอยเบี้ย
๒. ปรอท
๓. ชันโรงใต้ดิน
๔. แผ่นตะกั่วนม
         หลวงปู่จะนำวัตถุทั้ง ๔ อย่างมาส่วนประกอบและมวลสาร หลังประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมตามกรรมวิธีของท่าน เมื่อผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว หลวงปู่จะมอบให้ลูกศิษย์ไว้ติดตัวเพื่อป้องกันและแก้ไขอันตรายต่าง ๆ ปัจจุบันเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด เป็นวัตถุมงคลที่มีค่าสูง และหาได้ยากมาก
ลักษณะพิเศษเบี้ยแก้หลวงปู่รอด
เบี้ยแก้ของหลวงปู่ จะมีลักษณะพิเศษที่พอสังเกตได้ดังนี้
๑. ตัวเบี้ย หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่า เบี้ยพลู มีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก จะมีขนาดความยาว
ประมาณ ๓.๔ -๓.๕ ซ.ม. และกว้าง ๒.๔-๒.๕ ซ.ม.
๒. ลักษณะภายใน หากจับเขย่าดู จะมีเสียงดังเบา ๆ ซึ่งเป็นเสียงปรอทที่บรรจุไว้ภายใน
๓. บริเวณใต้ท้องเบี้ยแก้ จะมีชันโรงใต้ดินปิดอยู่ ตั้งปากเบี้ยจนถึงท้องเบี้ย และชันจะเกาะติด
แน่นอยู่กับท้องเบี้ย
๔. เบี้ยแก้ทุกตัว จะหุ้มด้วยแผ่นตะกั่วนมอย่างดีและประณีตบรรจง โดยจะเปิดส่วนที่นูนของ
เบี้ยไว้
๕. แผ่นตะกั่วที่หุ้มเบี้ยแก้ จะมีการลงอักขระกำกับไว้ โดยการใช้เหล็กจาร หากดูผิวเผินอาจจะ
มองไม่เห็นชัด และตัวอักษรที่จารจะมีรอยเส้นเรียบ
๖. เบี้ยแก้ทุกเบี้ยจะถักด้ายหุ้มไว้ ในการถักด้ายจะมี ๒ แบบ คือ ถักหุ้มปิดหลังเบี้ย และถัก
หุ้มเปิดหลังเบี้ย แล้วทาด้วยยางมะพลับ หรือยางหมาก ปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น